NatureLife Rice Bran and Germ Oil
เนเจอร์ไลฟ์ น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
ช่วยลดโคเลสเตอรอล บำรุงผิวพรรณ และต้านอนุมูลอิสระ
ทำไมน้ำมันรำข้าว จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย
เพราะอาหารหลักที่เราบริโภคทุกวันนี้ คือข้าวขาวที่ถูกขัดสี เพื่อเอารำข้าวออก
ทำให้สารอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์
ต่อร่างกายนั้นสูญหายเสียไป ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องทำการสกัดสารอาหาร
สำคัญจากรำข้าวและจมูกข้าว ภายใน 24 ชม. ด้วยกระบวนการพิเศษ หลัง
จากการขัดสีข้าว เำพื่อให้ได้โปรตีน ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุกลับคืนมา ซึ่ง
ส่วนนี้ของข้าวจะมีปริมาณน้ำมันและไขมันที่ดีสูง เมื่อเทียบกับเมล็ดธัญพืช
ชนิดอื่น
คุณประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวที่แตกต่างจากน้ำมันจากพืชชนิดอื่น
คือสารประกอบสำคัญ 2 กลุ่มคือ แกมม่า- โอริซานอล และวิตามิน อี ในปริมาณ
ที่สูง ซึ่งในน้ำมันจากพืชชนิดอื่นจะไม่มีแกมม่า- โอริซานอล ทั้งสองชนิดเป็น
สารต้านอนุมูลอิสระพลังสูง
ประโยชน์ของแกมม่า- โอริซานอล
1. ประโยชน์ต่อผิวพรรณ
- ผลต่อการไหลเวียนของเส้นเลือดขนาดเล็ก บริเวณใต้ผิวหนัง ทำให้การไหล
เวียนดีขึ้น เพราะแกมม่า- โอริซานอล เป็น Oil Soluble จึงดูดซึมได้ง่ายและ
ไปยังผิวหนังกระตุ้นให้เส้นเลือดฝอยขยายตัว และมีการไหลเวียนของเลือดใน
เส้นเลือดฝอยดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและเป็นสีชมพู
- สามารถดูดซับรังสียูวี ช่วยป้องกันการเกิดแดดเผาและป้องกันไม่ให้ไขมัน
บริเวณผิวหนังถูกเปลี่ยนไปโดยการ Oxidation จึงรักษาความนุ่มนวลและ
ความชุ่มชื่นไว้ได้
2. คุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
แกมม่า - โอริซานอลมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีโดยเฉพาะอย่าง
ยิ่งหากอยู่ในรูปน้ำมัน โดยสามารถดักจับสารที่เป็นอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย
ต่อผิวหนังและร่างกายของมนุษย์ จึงสามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจ มะเร็ง
และโรคภัยไข้เจ็บอื่นได้ๆ
3. ช่วยลดอาการผิดปกติของสตรีวัยทอง
แกมม่า- โอริซานอลได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีในการรักษาอาการภาวะ
หมดประจำเดือนในสตรี เช่น อาการวูบวาบ ร้อนๆ หนาวๆ และอาการอื่นๆ ของ
ภาวะสูงวัย โดยมีรายงานว่า 70% ของผู้ป่วยมีอาการลดลงกว่าครึ่งจากการ
รับประทานแกมม่า- โอริซานอล สำหรับกลไกการออกฤทธิ์นั้น เชื่อว่าแกมม่า-
โอริซานอลไปทำให้เอนดอร์ฟินถูกหลั่งออกมามากขึ้น และคนไข้มีอาการดีขึ้น
นอกจากนี้ยังพบถึงความสัมพันธ์ระหว่างน้ำมันรำข้าวกับโรคกระดูกพรุน
พบว่าการสูญเสียกระดูกในบริเวณต่างๆ มีการลดลง โดยเฉพาะกระดูกที่เป็น
กระดูกยาว เช่น กระดูกแขน ขา ยังพบว่าการใช้แกมม่า- โอริซานอลละลาย
ในน้ำมันข้าวโพด ไม่มีผลต่อการเพิ่มมวลกระดูกแต่อย่างใด ซึ่งก็หมายความ
ว่าจะต้องเป็นแกมม่า- โอริซานอลที่ไ้ด้จากน้ำมันรำข้าวเท่านั้นที่จะมีผลต่อ
การเพิ่มมวลกระดูก
4. ภาวะไขมันในเลือดสูง
ในผู้ป่วยที่ได้รับแกมม่า- โอริซานอล พบว่ามีการลดลงของทั้งโคเลสเตอรอล
และไตรกลีเซอไรด์ ในขณะเดียวกันก็มีระดับไขมันที่ดีที่เป็น HDL เพิ่มสูงขึ้น
มีหลายการทดลองที่แสดงให้เห็นว่า แกมม่า- โอริซานอลช่วยลดการดูดซึม
โคเลสเตอรอลในทางเดินอาหารและเพิ่มการขับทิ้งของร่างกาย โดยร่างกาย
จะเปลี่ยนโคเลสเตอรอลไปเป็นกรดน้ำดี แลัวขับทิ้งในรูปกรดน้ำดี เมื่อโคเลส-
เตอรอลลดลง จึงช่วยลดการเกิดคราบแข็งเกาะที่ผนังหลอดเลือดแดง ซึ่งเป็น
สาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ รวมทั้งยับยั้งการเปลี่ยนไขมันที่ดีเป็นไขมันเลว
อันเป็นสาเหตุที่จะทำให้เส้นเลือดอุดตันได้ เนื่องจากว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค
เรื้อรังต่างๆ นั้นมักมีส่วนสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับสารที่เรียกว่าอ็อกซิแดนซ์ ทั้ง
จากสภาวะแวดล้อมและภายในร่างกายของคนเรา จึงทำให้คนหันมาสนใจ
ในเรื่องน้ำมันรำข้าวมากขึ้น
5. ผลต่อระบบทางเดินอาหาร
พบว่าสามารถแก้ปัญหาของทางเดินอาหารได้ และช่วยป้องกันการเกิดแผล
ในกระเพาะอาหาร โดยไม่ทำให้ระบบประสาทที่ควบคุมการหลั่งของสารที่
ช่วยในการย่อยอาหารให้มีการทำงานเป็นปกติ
นอกจากแกมม่า- โอริซานอลแล้วในน้ำมันรำข้าวยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม
ตัว 2 ชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคือ กรดโอเลนิก 225 มก.และกรดไลโน -
เลอิก 150 มก.
กรดโอเลอิก หรือ กรดไขมันโอเมก้า 9
เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ช่วยลดแอลดีแอล แต่จะไปเพิ่ม เอชดีแอล
ซึ่งเป็นโคเลสเตอรอลชนิดดี ที่จะช่วยพาโคเลสเตอรอลในเซลล์และในกระแส
เลือดไปเผาผลาญ ป้องกันเส้นเลือดตีบได้ ลดการอุดตันในผนังหลอดเลือด
แดง
กรดไลโนเลอิก หรือ กรดไขมันโอเมก้า 6
กรดไลโนเลอิกจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่เยื่อหุ้มเซลล์ ป้องกันมิให้
ผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ ปล่อยให้สารผ่านเข้าออกมากจนเกินไป การขาดกรด
ไขมันนี้จะส่้งผลให้ผิวหนังเสียสภาพสมดุล เกิดผื่น และรอยโรคต่างๆ เยื่อ
หุ้มเนื้อเยื่อทั่วร่างกายก็จะได้รับผลกระทบด้วย
วิธีรับประทาน วันละ 1- 2 เม็ดพร้อมอาหาร